ทัวร์ปากีสถาน บนเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์

ทัวร์ปากีสถาน บนเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์

รหัสทัวร์
052-00448
วันที่เดินทาง
พ.ค.67 - ก.ย.67
ช่วงเวลา
9 วัน 7 คืน
เดินทางโดย
Thai Airways (TG) Thai Airways (TG)

ไฮไลท์

  • หุบเขานาราน - เมืองแอบบอตตาบัด - หุบเขาฮุนซ่า - ทะเลสาบลาลูซ่า
  • เส้นทางสายไหมโบราณ - วิวเทือกเขา ราคาโปชิ - หุบเขานาการ์
  • หมู่บ้านฮอปเปอร์ - ป้อมปราการบัลติท - ยอดเขาเลดี้ฟิงเกอร์
  • ทะเลสาบอัตตาบัต - สะพานแขวนฮุสไซนี - ธารน้ำแข็งพาสสุ
  • ธารน้ำแข็งพาสสุ - ด่านพรมแดนคุนจีราบ - พระพุทธรูปคาร์กาห์
  • หินแกะสลักเมืองชีราส - อิสลามาบัด - อารามพุทธจูเลียน - พิพิธภัณฑ์ตักศิลา

แผนการเดินทาง

16.00 น.    คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน

19.00 น.     ออกเดินทางจากสู่ อิสลามาบัด โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 349 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) เวลาที่ปากีสถานช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง 

22.10 น.     เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระ...ไกด์ท้องถิ่นรอต้อนรับคณะ..นำท่านเดินทางสู่โรงแรม

ธนบัตรปากีสถานมีธนบัตรทั้งหมด 7 ราคา ได้แก่ 10, 20 , 50 ,100 , 500 , 1,000 และ 5,000 โดยธนบัตรทุกใบจะมีรูปของ มูฮัมมัด อาลี จินนาห์ (Muhammad Ali Jinnah) ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของประเทศเพราะเป็นผู้แบ่งแยกดินแดนระหว่างฮินดูและมุสลิมเป็นดินแดนของประเทศปากีสถาน  

ที่พัก: Pearl Continental Rawalpindi หรือเทียบเท่า

เช้า             บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้น        เดินทางไปยัง หุบเขานาราน (Naran) ระยะทางประมาณ 280 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง เข้าสู่เส้นทาง คาราโครัมไฮเวย์ (Karakoram Highway) หรือทางหลวงหมายเลข 35 ถนนลอยฟ้ากับความสวยที่ไม่มีใครทัดเทียม เส้นทางในฝันของนักเดินทาง ที่ใครหลายคนตั้งฉายาว่า “สิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่ 8 ของโลก” เดินทางผ่าน เมืองแอบบอตตาบัด (Abbottabad) เมืองใหญ่ทางตะวันออกของจังหวัดไคเบอร์ปักตุนควา (Khyber Pakhtunkhwa) และเป็นสถานนที่ที่ อุซามะฮ์ บิน ลาดิน (Osama bin Laden) ผู้ก่อตั้งองค์กรทหารรวมอิสลาม อัลกออิดะฮ์ หลบซ่อนตัวและถูกสังหารเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2011  โดยสหรัฐเชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง “การโจมตี 11 กันยายน 2001” (การยึดเครื่องบินพานิชย์พุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และเพนตากอน)

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย            ออกเดินทางต่อไปนาราน รถขับโค้งไปตามภูเขาหิมาลัย คดเคี้ยวตามลักษณะภูมิประเทศ เบื้องล่างหุบเขาสูงมีแม่นํ้าสายหนึ่งซึ่งคดเคี้ยวควบคู่ไปกับเส้นทางคือ แม่น้ำคูนา (Kunar river) หรือเรียกอีกอย่างว่าแม่น้ำจิตรัล (Chitral River) ตลอดทางสามารถพบเห็น รถบรรทุกปากีสถาน...อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศปากีสถาน ที่ใครหลายๆคนมาก็จะต้องสะดุดตา

เดินทางถึงนาราน เมืองตากอากาศที่ชาวปากีสถานนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว มีภูมิทัศน์เป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีแม่น้ำไหลผ่าน นำท่านช้อปปิ้งที่ ตลาดนาราน (Naran bazaar) เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

ค่ำ              บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม

ที่พัก: Hotel One Naran หรือเทียบเท่า

เช้า             บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้น        เดินทางไปยัง หุบเขาฮุนซ่า (Hunza Valley) ระยะทาง 320 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชม. โดยใช้เส้นทาง บาบูซ่าพาส (Babusar Pass) ระดับความสูง 4,173 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นเส้นทางภูเขาของหุบเขาคากาน (Kaghan) เชื่อมต่อกับชีลาส, กิลกิตบัลติทสถานและไคเบอร์ปัคตุนควา ชื่อบาบูซ่าพาสมีต้นกำเนิดมาจากจักรพรรดิโมกุลบาร์บู (Babur) เคยเดินทางผ่านบริเวณนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16  ระหว่างทางแวะชม ทะเลสาบลาลูซ่า (Lalusar lake) ทะเลสาบที่มีความสูง 3,410 เมตรดหนือระดับน้ำทะเล เป็นต้นกำเนิดน้ำหลักของแม่น้ำคุนฮาร์

เดินทางถึงจุดชมวิว ยอดเขานังกาปาร์บัต (Nanga Parbat) ยอดเขาสูงสุดในโลกอันดับที่ 9 มีความสูงอยู่ที่ 8,126 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นังกาปาร์บัตแปลว่า “ยอดเขาเปลือย” “Parbat” มาจากภาษาสันสกฤตว่า “บรรพต” หรือ “ปรฺวต” ที่แปลว่าภูเขาหรือหิน และคำว่า “Nanga” ที่มาจากภาษาสันสกฤตว่า “นคฺน” ที่แปลว่าเปลือยหรือว่าง แต่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ภูเขานักฆ่า” (Killer Mountain) เพราะเป็นภูเขาที่มีอันตรายที่สุดในบรรดายอดเขาแปดพันเมตรสิบสี่ยอด ผู้ที่พิชิตยอดเขานี้สำเร็จเป็นคนแรก คือ แฮร์มันน์ บูล นักปีนเขาชาวออสเตรีย เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1953

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

แวะชม จุดตัดของ 3 แนวเทือกเขา คือ เทือกเขาคาราโครัม (Karakoram) เทือกเขาฮินดูกูช (Hindukush) และ เทือกเขาหิมาลัย (Himalayas) โดยมีแม่น้ำกิลกิต (Gilgit river) และ แม่น้ำสินธุ (Indus river) ไหลมาบรรจบกัน

นำท่านชม เส้นทางสายไหมโบราณ (Old silk road)..เครือข่ายการค้าโบราณที่เชื่อมต่อเมืองต่างๆ เข้าด้วยกัน ผ่านกองคาราวานพ่อค้าที่เดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอนไปค้าขายยังต่างแดน เส้นทางสายไหมมีระยะทางยาวกว่า 4 พันไมล์ เริ่มต้นจากเมืองฉางอัน (Chang’an) ทางตอนกลางของประเทศจีน ข้ามผ่านทะเลทรายในเอเชียกลางไปสิ้นสุดที่เมืองแอนติออค (Antioch) ในประเทศตุรกี เส้นทางสายไหมเริ่มต้นเมื่อ 130 ปีก่อนคริสตกาล ในรัชสมัยพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ (Emperor Wu of Han) จักรพรรดิจีนราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty) พระองค์เห็นว่าแผ่นดินจีนมีของดีมากมาย โดยเฉพาะผ้าไหมที่ไม่มีดินแดนใดในโลกล่วงรู้กรรมวิธีการผลิตในครั้งนั้น ฮั่นอู่ตี้จึงส่งราชทูตนามว่า จางเชียน (Zhang Qian) ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับชนเผ่าเร่ร่อนที่อาศัยในทะเลทรายมณฑลกานซู่ (Gansu Province) เมื่อชนเผ่าต่าง ๆ ได้รู้จักผ้าไหมเป็นครั้งแรก ชื่อเสียงของผืนผ้าเรียบลื่นเนื้อละเอียดก็ร่ำลือระบือไกล ทำให้ความต้องการผ้าไหมในดินแดนตะวันตกเพิ่มมากขึ้น เส้นทางการค้าผ้าไหมจึงเริ่มต้นขึ้นที่ฉางอัน เมืองหลวงราชวงศ์ฮั่นในครั้งนั้น ก่อนเชื่อมต่อกับเส้นทางการค้าต่าง ๆ จนกลายเป็นเครือข่ายเส้นทางสายไหมทางบกในเวลาต่อมา ตลอดระยะเวลากว่าพันปี การค้าขายบนเส้นทางสายไหมได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์โลกหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกใน ค.ศ. 476 การรุกรานของชนเผ่ามองโกลในสมัยราชวงศ์จิน (Jin Dynasty) รวมถึงนโยบายจักรวรรดิออตโตมันที่ห้ามการค้าขายกับต่างแดนในค.ศ. 1453 เหตุการณ์เหล่านี้นำไปสู่การหยุดชะงักของการค้าบนเส้นทางสายไหม เมืองต่าง ๆ ที่มีรายได้หลักจากการค้ากับต่างแดนจึงพากันล่มสลายไปตาม ๆ กัน อย่างไรก็ตาม เส้นทางสายไหมถูกลดบทบาทอย่างแท้จริงเมื่อครั้งที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจชาวอิตาเลียนค้นพบทวีปอเมริกาใน ค.ศ. 1492 นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวตะวันตกต่างหันมาแสวงหาความมั่งคั่งจากทวีปโลกใหม่ เกิดเป็นเส้นทางการค้ามหาสมุทรแอตแลนติกที่เชื่อมต่อยุโรป แอฟริกา และอเมริกาเข้าด้วยกัน เส้นทางสายไหมที่มีมาแต่โบราณจึงหมดความสำคัญลงในที่สุด

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ชมวิวเทือกเขา ราคาโปชิ (Rakaposhi)  ความสูง 7,788 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นภูเขาที่สูงอันดับ 27 ของโลก คำว่า “ราคาโปชิ” มีความหมายว่า “หิมะปกคลุม”  เดินทางต่อไปยัง หุบเขาฮุนซ่า (Hunza valley) หนึ่งในจุดหมายไฮไลท์ของการเที่ยวปากีสถาน  ในช่วงฤดูร้อน สีของใบไม้สีเขียวชอุ่มตัดกับสีน้ำในแม่น้ำกับฉากหลังยอดเขาสูงสุดยิ่งใหญ่ ฮุนซ่าพื้นที่หุบเขาในเขตการปกครองตนเองกิลกิตบัลติทสถาน (Gilgit-Baltistan) โดยรายล้อมด้วยยอดเขาความสูงเกิน 7,000 เมตรถึง 6 ยอด และเป็นจุดบรรจบกันของ 2 แม่น้ำสายสำคัญอย่าง แม่น้ำฮุนซ่า (Hunza river) และ แม่น้ำนาการ์ (Nagar river) ที่นี่ยังมีชนเผ่าหนึ่งที่เรียกว่า ชาวฮุนซ่า ซึ่งเป็นชนเผ่าที่มีอายุยืนยาวกันที่สุดในโลก!!

ชาวฮุนซ่าหรือที่รู้จักกันว่า Hunzakuts เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในหุบเขาฮุนซ่า เชื่อกันว่าเป็นลูกหลานของชาวบูรูโช่ (Burusho) ที่เคยอาศัยอยู่เป็นเวลาหลายพันปี ชาวฮุนซ่าจะพูดภาษา Burushaski ซึ่งเป็นภาษาที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษาใดในปากีสถานชาวฮุนซาส่วนมากมีอายุถึง 120 ปี และโดยบางคนอาจมีอายุถึง 150 ปี ในขนาดเดียวกันชาวปากีสถานจะมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 67 ปี ตามคำคมที่ว่า “you are what you eat” ด้วยความที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อยู่ท่ามกลางภูเขาทำให้มีอากาศบริสุทธิ์ ไม่มีมลภาวะ และไม่มีสารเคมีใดๆมารบกวน มีแหล่งน้ำที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง ซึ่งว่ากันว่าแทบจะไม่มีใครป่วยเป็นโรคภัยไข้เจ็บ และโรคเรื้อรังเลยก็ว่าได้

ค่ำ              บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม

ที่พัก: Hunza Darba หรือเทียบเท่า

เช้า             บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

*** วันนี้แนะนำว่านำขนมไปแจกเด็กๆและถ่ายรูปกับเด็กๆ แล้วจะรู้ว่าเด็กๆที่นี่นั้นน่ารักขนาดไหน***

จากนั้น        นั่งรถจี๊ปมุ่งหน้าสู่ หุบเขานาการ์ (Nagar valley) หุบเขาที่อยู่บนระดับความสูงเฉลี่ยเกิน 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล หุบเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งยอดเขาสูงอันดับต้นๆของโลกหลายยอด ไม่ว่าจะเป็น ราคาโปชิ (Rakaposhi), ดิราน (Diran Peak), โกลเดนพีค (Golden Peak) รวมถึง รัชพีค (Rush Peak) นาการ์ในอดีตเคยเป็นนครรัฐและมีกษัตริย์หลายพระองค์ปกครองมากว่า 1,200 ปี จนกระทั่งล่มสลายลงในค.ศ.1974

ระหว่างทางที่รถไต่เขาเลียบริมหน้าผาขึ้นไป บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มหัศจรรย์มากๆ เห็นทั้งวิวภูเขา ต้นไม้ หมู่บ้านเล็กๆที่ทำนาขั้นบันได เลี้ยงสัตว์ เช่น วัว แพะ แกะ...เดินทางจนถึง หมู่บ้านฮอปเปอร์

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย            นำท่านชม ฮอปเปอร์กราเซีย (Hopper Glacier) ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ในเขตหมู่บ้านฮอปเปอร์ ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,878 เมตร การชมธารน้ำแข็งต้องเดินขึ้นมาหน่อย แต่รับรองว่าวิวความอลังการของธารน้ำแข็งปังแน่นอนความโด่ดเด่นของฮอปเปอร์กราเซียคือมีสีดำเกิดจากการทับถมของหิมะอย่างยาวนาน...นั่งรถจี๊ปกลับคารีมาบัด

นำท่านชม ป้อมปราการบัลติท (Baltit Fort) ระหว่างทางไปป้อมจะเป็นทางเดินขึ้นเนินเขาเหนื่อยหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มค่าสุดๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าให้เลือกซื้อกันได้อย่างเพลิดเพลินทั้งผลไม้อบแห้ง ถั่วชนิดต่างๆ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับต่างๆ น้ำมันแอพริคอต

ป้อมบัลติท...ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมืองคาริมาบัด สร้างขึ้นมานานกว่า 700 ปี โดยในช่วงเริ่มต้นนั้นผู้ปกครองของเมืองคาริมาบัดได้แต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งรัฐบัลติสถาน (Baltistan) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากฝั่งของทิเบตค่อนข้างมาก ป้อมบัลติทเป็นหนึ่งในป้อมที่ถูกบรรจุเข้าสู่โครงการการบูรณะซ่อมแซมกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจจำนวนมาก จากบริเวณนี้เราจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของหุบเขาฮุนซ่าได้อย่างสวยงามอีกจุดหนึ่งของเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

นำท่านชม ป้อมปราการอัลติท (Altit Fort) ระหว่างทางผ่านหมู่บ้านและร้านค้าต่างๆ...ป้อมปราการอัลติท ป้อมโบราณ เดิมเป็นที่ตั้งของผู้ปกครองของรัฐฮุนซ่าที่เรียกว่า Mir ต่อมาย้ายไปอยู่ที่ป้อมบัลติทที่อายุน้อยกว่า  ตั้งบนพื้นที่ที่สูงกว่า ใหญ่กว่า และมองเห็นข้าศึกจากทุกทิศทาง จากบริเวณนี้เราจะสามารถมองเห็นวิวถนนคาราโครัมไฮเวย์จากมุมสูงสวยงามสุดๆ..นำท่านเดินทางไปดุยเกอร์ (Duiker)

ค่ำ              บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม

ที่พัก: Duiker Eagle Nest หรือเทียบเท่า

เช้าตรู่         ชมวิว ยอดเขาเลดี้ฟิงเกอร์ (Lady Finger Peak) ยอดเขาทะลุทะเลเมฆ สะกดทุกสายตาที่ได้พบเห็น ตั้งอยู่ตรงขอบชายแดนตะวันตกของเขตคาราโครัม  (Karakoram)  บริเวณเหนือหุบเขา Hunsa Valley โดยลักษณะของยอดเขานี้จะเป็นยอดแหลมๆ ซึ่งหากมองบางมุมก็จะคล้ายกับนิ้วมือของผู้หญิง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อยอดเขาแห่งนี้นั่นเองยอดเขานิ้วมือของหญิงสาวนี้ตั้งอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 6,000 เมตร

มีตำนานเล่าว่า...เมื่อในอดีต เจ้าชายไคซาร์แห่งแคว้นบัลติสถาน ได้เดินทางผจญภัยมาที่แถบภูเขาฮุนซ่าแห่งนี้ และได้พบกับเจ้าหญิงทรงพระนามว่า “บูบลิ”พระองค์ได้ทำการอภิเษกกับพระนาง แต่แล้วพระองค์ก็ได้รู้ข่าวว่ามเหสีเอกของพระองค์ที่บัลติสถานถูกลักพาตัวไปโดยกษัตริย์ของอีกแว่นแคว้นหนึ่ง พระองค์จึงทรงเตรียมตัวเดินทางกลับในทันทีและทรงพาเจ้าหญิงบูบลิมาที่ยอดเขาแห่งนี้ โดยมอบถุงข้าวสารกับแม่ไก่หนึ่งตัวให้กับเจ้าหญิง เมื่อเจ้าหญิงทรงถามพระองค์ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ พระองค์ก็ตอบว่า “ทุกๆหนึ่งปี ให้ป้อนข้าวสารกับแม่ไก่ตัวนี้ 1 เมล็ด และเมื่อข้าวสารหมดถุงเมื่อไหร่ เราถึงจะกลับมา” ซึ่งตำนานยังกล่าวต่ออีกว่าเจ้าหญิงยังคงรอเจ้าชายมาจนตราบถึงทุกวันนี้

เช้า             บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้น        นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบอัตตาบัต (Attabad Lake) ทะเลสาบตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซา เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี 2009 ลงมาปิดกั้นการไหลของน้ำในแม่น้ำฮุนซาจึงเกิดเป็นทะเลสาบแห่งนี้ ทะเลสาบมีความยาว 21 เมตร และลึก 103 เมตร ทางการจีนได้ช่วยสร้างอุโมงค์ผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมกับถนนคาราโครัมใหม่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน สัมผัสประสบการณ์ล่องเรือชมทะเลสาบอัตตาบัต ชมความงดงามของทะเลสาบสีฟ้าราวกับเทอร์ควอยซ์ตัดกับเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุม

เดินทางสู่ พาสสุ (Passu)..เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาโกจาล (Gojal) แต่มีดีที่วิวทิวทัศน์สุดอลังการ นำท่านชม สะพานแขวนฮุสไซนี (Hussani Suspension Bridge) สะพานแขวนเหนือทะเลสาบโบริท ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้าน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 โดยใช้สลิงธรรมดากับไม้ สะพานแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสะพานวัดใจเลยก็ว่าได้ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสำหรับนักถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด

เดินทางต่อชม ธารน้ำแข็งพาสสุ (Passu Glacier) ธารน้ำแข็งสีขาวที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบนคาราโครัมไฮเวย์ เพลินเพลินกับความมหัศจรรย์ของธารน้ำแข็งโดยฉากหลังเป็นภูเขาน้ำแข็งสีขาวตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงินที่สวยงาม

ชมความยิ่งใหญ่ของ ภูเขาวิหารแห่งพาสสุ (Passu Cathedrals)  ความแปลกตาของสันเขาที่ยอดแหลมทรงกรวยคล้ายวิหารกอธิคทางฝั่งยุโรปนับร้อยยอดอันเป็นที่มาของชื่อเขาแห่งนี้..ชม ธารน้ำแข็งบาทูร่า (Batura Glacier) ความยาวกว่า 57 กิโลเมตร เนื้อที่กว่า 285 ตารากิโลเมตร ธารน้ำแข็งบาทูร่าเป็นธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดลำดับที่ 5 นอกเขตขั้วโลก..เดินทางถึง เมืองซอสท์ (Sost)  เมืองชายแดนเล็กของปากีสถาน ด่านสุดท้าย เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆแต่เป็นเมืองท่าที่สำคัญของการค้าระหว่างปากีสถานกับประเทศจีน

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย            เดินทางสู่ ด่านพรมแดนคุนจีราบ (Khunjerab Pass) โดยช่องเขากุนจีราบนี้ตั้งอยู่เขตอุทยานแห่งชาติกุนจีราบ (Khunjerab National Park) เขตอนุรักษ์พืชพันธุ์ไม้ป่า รวมทั้งสัตว์ป่าสงวนหาดูยาก เช่น แกะมาร์โคโปโล แพะภูเขา เสือดาวหิมะ จามารี เป็นต้น นั่งรถไต่ระดับไปเรื่อยๆชมวิวเทือกเขาสุดอลังการ

หมายเหตุ: การขึ้นสู่จุดด่านพรมแดนคุนจีราบและอุทยานแห่งชาติขึ้นอยู่กับสภาพอากาศวันนั้นด้วยเช่นกัน บริษัทฯของสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนรายการตามความเหมาะสม

นำท่านถ่ายรูปเช็คอิน ด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 4,730 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นจุดที่มีความสูงที่สุดบนถนนหลวงลอยฟ้าคาราโครัม ชมตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก ให้ทุกท่านเก็บภาพถ่ายวิวสวยๆกับ ชายแดนจีน - ปากีสถาน  สร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวท่านเองว่าได้มายืนอยู่ ณ เส้นทางประวัติศาสตร์โลกจนถึงเวลานัดหมาย...นำท่านเดินทางกลับพาสสุตามเส้นทางเดิม

ค่ำ             บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม

ที่พัก: Passu Ambassador Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า             บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้น        นำท่านเดินทางสู่ กิลกิต (Gilgit) ระยะทาง 140 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย            นำท่านชม พระพุทธรูปคาร์กาห์ (Kargah Buddha) มรดกแห่งพุทธศาสนาที่ยังคงเหลืออยู่ในปากีสถาน เป็นพระพุทธรูปหินแกะสลักบนหน้าผาในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 มีลักษณะเป็นองค์พระยืนในลักษณะแบบนูนต่ำสูง 50 ฟุต (15 เมตร) มีตำนานที่เกี่ยวกับพระพุทธรูปแกะสลักนี้ว่า บริเวณแถบนี้เคยเป็นที่อยู่ของ ยักษ์กินคนนาม “ยักษิณี” โดยเหล่าชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนักบวชที่ผ่านทางมาและนักบวชก็ได้ตรึงนางยักษิณีไว้ที่ก้อนหินนี้เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีก

เดินทางถึงเมือง กิลกิต (Gilgit) เคยเป็นจุดแวะสำคัญในเส้นทางสายไหม นอกเหนือจากการค้าผ้าไหม เครื่องเทศ และสินค้าอื่นๆ แล้ว เส้นทางเครือข่ายนี้มีบทบาทสำคัญในการเป็นทางผ่านถ่ายทอดวัฒนธรรม ศาสนา และอารยธรรมมานานหลายศตวรรษ และยังเป็นหนึ่งในเส้นทางการเผยแพร่พระพุทธศาสนาจากอินเดียไปสู่เอเชียอีกด้วย นำท่านไป ย่านการค้ากิลกิต (Gilgit Bazaar) ตลาดขนาดใหญ่ในตัวเมืองกิลกิต อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่น และของฝากไปเป็นของที่ระลึก อาทิ แอปริคอตตากแห้ง ภาขนะเครื่องเคลือบ และพรม นอกจากนี้ยังมีสตรีกฟู้ดให้เลือกซื้อทานกันอย่างจุใจ เมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับที่พัก

ค่ำ              บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม

ที่พัก: Gilgit Serena Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า             บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้น        นำท่านเดินทางสู่ นาราน (Naran) ระยะทาง 230 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง ระหว่างทางชม หินแกะสลักเมืองชีราส (Chilas rock inscription) โขดหินจารึกเหล่านี้จะปรากฏให้เห็นเป็นระยะตลอดเส้นทางสายไหม เส้นทางที่เคยมีพ่อค้าวาณิชมากมายผ่านไปมา โดยที่เมืองชีลาสนี้ ถือเป็นจุดศูนย์รวมโขดหินจารึกภาพโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีการค้นพบหลักฐานมากกว่า 20,000 ชิ้น

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางต่อจนถึงเมืองนาราน.....ชมวิวระหว่างทางทั้งภูเขา หมู่บ้านและแม่น้ำ

ค่ำ              บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม

ที่พัก: Hotel One Naran หรือเทียบเท่า

เช้า             บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้น        นำท่านเดินทางสู่ อิสลามาบัด (Islamabad) ระยะทาง 282 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมง ระหว่างทางนำท่านแวะชมเมือง ตักศิลา (Taxila) นครโบราณอดีตที่รุ่งเรืองด้วยพุทธศาสนา อดีตเป็นนครหลวงแห่งแคว้นคันธาระ (Ghandara) เดิมชื่อว่า ตักชาศิลา-Takshasila เป็นภาษาสันสกฤต ต่อมาเมื่ออเล็กซานเดอร์มหาราชรุกรานอินเดียเมื่อ 326 ปีก่อนคริสตกาล ได้มาหยุดพักที่เมืองนี้แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น ตักศิลา-Taxila ...เมืองตักสิลาถือว่าเป็นเมืองมหาวิทยาลัยอันยิ่งใหญ่ของโลกที่มีมาก่อนพุทธกาล และเป็นศูนย์กลางการศึกษาของพราหมณ์ และในยุคที่พุทธศาสนาเจริญ เมืองนี้ก็กลายเป็นแหล่งศึกษาที่สำคัญของพุทธศาสนา มีนักศึกษาจากทั่วทุกทิศ ทั้งในอินเดีย และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ทั้งเปอร์เซียและประเทศทางแถบเอเชียกลางมาเล่าเรียน ยุคนั้นไม่ว่าใครจะศึกษาศิลปวิทยาการ หรือศาสตร์แขนงใดก็ตาม ก็จะต้องไปศึกษากันที่ตักศิลา รวมทั้งแพทยศาสตร์ และเป็นที่กล่าวขานกันว่าใครสำเร็จสรรพวิทยาไม่ว่าศาสตร์ใดจากตักสิลาแห่งนี้ ก็จะได้รับการยกย่องและเป็นที่เชื่อถือกันอย่างมากในสังคม ดังเช่นหมอชีวกโกมารภัจจ์ ก็สำเร็จวิชา การแพทย์จากมหาวิทยาลัยตักสิลาแห่งนี้ สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ตักศิลาเป็นนครที่รุ่งเรืองด้วยพุทธศาสนา ซึ่งเติบโตขึ้นมาพร้อมๆ กับศาสนา เชน และฮินดู ต่อมาในสมัยหลวงจีนเหี้ยนจังหรือพระถังซัมจั๋งมาสืบพระพุทธศาสนาในอินเดียเมื่อพ.ศ.1186 ท่านได้บันทึกว่า เมืองตักศิลาตกอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม และเป็นเพียงเมืองหนึ่งในแคว้นกัษมีระหรือแคชเมียร์ (ปัจจุบันอยู่ในเขตราวัลปินดี ประเทศปากีสถาน) โบสถ์และวิหาร สถานศึกษาก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น จากนั้นมาก็ไม่ปรากฏเรื่องเมืองตักสิลาอีกเลย

ตักศิลาถูกบรรจุเป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวหลักของปากีสถาน ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับเมืองตักสิลา ปัจจุบันตักศิลาอยู่ในเขตประเทศปากีสถาน แม้จะคงเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่อดีตพุทธนครโบราณอันรุ่งเรืองแห่งนี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1980

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านชม อารามพุทธจูเลียน (Julian Monastery) โบราณสถานที่สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาในพื้นที่บริเวณนี้  ซึ่งเป็นวัดหรืออารามโบราณบนเนินเขาความสูง 300 ฟุต บนลานกว้างรายล้อมด้วยกาแพงห้องขนาดเล็ก คงเหลือแต่ฐานพระสถูปให้เห็นและจินตนาการถึงความรุ่งเรืองเมื่อครั้งอดีต พิพิธภัณฑ์ตักศิลา (Taxila Museum) เก็บรวบรวมหลักฐานความเป็นอยู่และภูมิปัญญาของชาวตักศิลายุคต่าง ๆ รวมถึงซากสถูปเจดีย์ วัดวาอาราม เหรียญกรีกในยุคสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช และพระพุทธรูปสมัยคันธาระจำนวนมาก

ธรรมราชิกสถูป (Dharmarajika stupa) สร้างขึ้นโดยกุษาณะในคริสต์ศตวรรษที่ 2 เพื่อบรรจุชิ้นส่วนพระอัฐิขนาดเล็กของพระพุทธเจ้า ถูกบรรจุลงในแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกใน ค.ศ. 1980… นำท่านเดินทางสู่ อิสลามาบัด (Islamabad) เมืองหลวงของประเทศปากีสถาน ตั้งอยู่ในเขตการปกครองเมืองหลวงอิสลามาบัด มีพื้นที่ 906 ตารางกิโลเมตร กรุงอิสลามาบัดสร้างขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1960 เพื่อเป็นเมืองหลวงของประเทศแทนนครการาจี นำท่านชม มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามาร์กาลา (Margalla Hills) มัสยิดนี้ประกอบด้วยการออกแบบร่วมสมัยมีชั้นนอกของอาคาร 8 ด้านซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระโจมเบดูอิน (Bedouin tent)เริ่มต้นก่อสร้างในปี 1976 โดยสมเด็จพระราชาธิบดีไฟซาลแห่งซาอุดิอาระเบียพระราชทานงบประมาณ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมัสยิดนี้ตั้งชื่อจากพระนามของพระองค์ งานออกแบบที่แปลกใหม่นี้เป็นผลงานของสถาปนิกชาวตุรกี Vedat Dalokay ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากการประกวดในระดับนานาชาติ มัสยิดนี้เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศปากีสถาน และเคยดำรงตำแหน่งมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 1986-1993

ค่ำ              บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร...และนำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสลามาบัด

23.20 น.     ออกเดินทางจากสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 350 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

06.25 น.    เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

แผนที่

เลือกวันเดินทาง

วันเดินทางไป - กลับ ผู้ใหญ่ท่านละ พักเดี่ยวเพิ่มเงิน ราคาเด็กท่านละ
01 พ.ค. 67 - 09 พ.ค. 6767,777 บาท10,500 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
01 มิ.ย. 67 - 09 มิ.ย. 6767,777 บาท10,500 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
20 ก.ค. 67 - 28 ก.ค. 6767,777 บาท10,500 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
10 ส.ค. 67 - 18 ส.ค. 6767,777 บาท10,500 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
14 ก.ย. 67 - 22 ก.ย. 6767,777 บาท10,500 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง

เงื่อนไข

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัด โดยสายการบินไทย เส้นทาง กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด - กรุงเทพฯ(กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ นำหนักไม่เกิน 20 กก. /กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง 1 ใบน้ำหนักไม่เกิน 7 กก)
  • ค่าภาษีสนามบิน ค่าภาษีน้ำมัน และค่าประกันภัยทางอากาศ (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)
  • ค่าที่พักโรงแรมตามที่ระบุตลอดการเดินทางพักห้องคู่ ตามรายการระบุ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามรายการระบุ(เป็นอาหารท้องถิ่นแบบอิสลามทานง่ายและมีอาหารไทยเสริม ทุกมื้อ)
  • น้ำเปล่าท่านละ 2 ขวด/ท่าน ต่อวัน
  • ค่าวีซ่าปากีสถานแบบท่องเที่ยวอยู่ได้ 15 วัน ( E tourist visa ) เข้าได้ 1 ครั้ง
  • ค่าพาหนะ รถรับ-ส่ง ตลอดการเดินทาง ตามรายการระบุ
  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย 50,000 บาท (คุ้มครองผู้เอาประกันภัย อายุระหว่าง 6-75 ปี ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยอายุต่ำกว่า 6 ปี หรือ ระหว่าง 76 ปีขึ้นไปจะมีเบี้ยประกันคุ้มครอง 50 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ / ผู้เอาประกันภัยอายุสูงกว่า 85 ปี ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคุ้มครอง) ประกันครอบคลุมการติดโควิดและการรักษาในต่างประเทศ(ต้องมีใบเสร็จโรงพยาบาลเท่านั้น)และหลังจากกลับจากต่างประเทศต่อเนื่องอีก 7 วัน  วงเงินคุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า อาหารเป็นพิษเท่านั้น) แต่ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต
  • ค่าทำหนังสือเดินทาง (PASSPORT) และเอกสารวีซ่าของคนต่างด้าว
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรมซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง เพื่อป้องกันการสูญหาย
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก และค่าอาหารที่สั่งมาในห้องพักค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษในร้านอาหารนอกเหนือจากรายการ
  • ค่าทิปไกด์ ท้องถิ่น และคนขับรถ และคนที่มาบริการ ตลอดทริป  50 เหรียญ/ท่าน (หรือเงินไทย 1,800 บาท)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน
  1. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 10 ท่าน หรือตามที่บริษัทฯ กำหนด
  2. รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สารองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
  3. บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ และอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย, การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ
  4. หากท่านยกเลิกก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
  5.  บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
  6. ราคานี้คิดตามราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตั๋วเครื่องบินตามสถานการณ์ดังกล่าว
  7. กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจากสายการบินบริษัทฯขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯจะดาเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้สาหรับค่าบริการนั้นๆ
  8.  มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัทฯ นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯ กำกับเท่านั้น
  9. หากท่านไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบิน จะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  10. เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ท่านไม่อาจเรียกร้องค่าบริการ และเงินมัดจาคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
  11.  ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิเช่นนั้นทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  12. กรณีเจ็บป่วยจนไม่สามารถเดินทางได้ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรองบริษัทฯจะพิจารณาเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไปแต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ เช่นค่าตั๋วเครื่องบินค่าห้อง ค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกิดขึ้นตามจริง ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได้
  13. กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
  14. กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
  15. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ราคานี้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยและท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะแบบ Join Tour เท่านั้น กรณีต้องการตัดกรุ๊ปเหมาโปรดสอบถามทางบริษัทอีกครั้ง หากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือ พระสงฆ์ โปรดสอบถามทางบริษัท
** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
67,777 บาท
รหัส 052-00448 ทัวร์ปากีสถาน บนเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์
ราคาเริ่มต้น 67,777 บาท
เดินทางช่วง พ.ค.67 - ก.ย.67
เดินทางโดย Thai Airways (TG)
ดูเพิ่มเติม https://js888.co.th/tour.php?tour_id=6159

ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/005/052-00448.pdf

สนใจติดต่อ JS888 Holiday
เลขที่ใบอนุญาต 11/08320
โทร 092-617-6888 ,062-287-4655 ,062-798-9945
LINE ID 0926176888
อีเมล js888holiday@gmail.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode

โปรแกรมแนะนำ

ติดต่อสำนักงาน
JS888 Holiday
เลขที่ใบอนุญาต 11/08320

89/728 ถนน บางกรวย-ไทรน้อย ตรอก ซอย 3/24 ตำบล บางรักพัฒนา อำเภอ บางบัวทอง นนทบุรี 11110

จันทร์-เสาร์ 9:00-18:00
บริการของเรา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
บริการทำ VISA ทุกประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวต่างประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการเช่ารถตู้ รถบัสโดยสาร
บริการจัดอบรมประชุมสัมมนา
บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา